นิทานภาษาใต้ Southern Folktales

ตัวอย่างนิทานภาคใต้นี้
ได้รับความเอื้อเฟื้อจาก สถาบันทักษิณคดีศึกษา
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ถอดเทปโดย บัณฑิกา จารุมา


Since November 2004

นิทานเรื่อง "ศรีธนญชัยอยู่วัด" เล่าโดย นางมาเหรียน บิลกะเฮาะห์ อายุ 35 ปี ภูมิลำเนา อ.เมือง จ.สงขลา เมื่อ 20 พ.ย.2526
นิทานเรื่อง "สามเกลอ" เล่าโดย นางมาเหรียน บิลกะเฮาะห์ อายุ 35 ปี ภูมิลำเนา อ.เมือง จ.สงขลา เมื่อ 25 พ.ย.2526
นิทานเรื่อง "สี่เกลอ" (1) เล่าโดย นาง ฟาติมะห ์ บิหนุเหล็ม อายุ 40 ปี ภูมิลำเนา อ.เมือง จ.สงขลา เมื่อ 10 พ.ย.2526
นิทานเรื่อง "สี่เกลอ" (2) เล่าโดย นางมาเหรียน บิลกะเฮาะห์ อายุ 35 ปี ภูมิลำเนา อ.เมือง จ.สงขลา เมื่อ 25 พ.ย.2526

ฟังนิทานทีละช่วง ด้วย WAV Format โดยกดปุ่ม ในตอนต้นของแต่ละตอน หรือ

ฟังนิทานทีละช่วง ด้วย RealMedia Format โดยกดปุ่ม ในตอนต้นของแต่ละตอน หรือ

ฟังนิทานทีละช่วง ด้วย MP3 Format โดยกดปุ่ม ในตอนต้นของแต่ละตอน

 

 

 

 

นิทานเรื่อง "ศรีธนญชัยอยู่วัด"

  ฟังนิทานทั้งเรื่อง ความยาว 4 นาที 11 วินาที ด้วย RealMedia Format
คำถอดเทปเป็นภาษาใต้ คำแปลเป็นภาษากลาง

หนิทานเหรืองนี้ฮั้นแหล้ะหนะ สี้ถะนนชัยน่ะแหล้ะ
โหยหวัดกั๋บผอถาน
ผอถานสังหวา สี้ถะนนชัยเห้อ ต๋อเดี๋ยวพอดาวรุ๋งคั้นเทียมปลายโด๊ดฮัน
หมึ้งเหลียกกู๋กั๋นแหล้นะ กู๋อี๊ไป๋หยื๋นบ๊าด
สี้ถะนนชัยหรับหวา "ฮึ ชาน แหล่วผอถานนอนตะ"
พอผอถานนอน สี้ถะนนชัยกะ ก๊อไป๋ห้า ไป๋พาต๊าย
จุ๋ดไฟไปติ๋ดไหว่ถีบ๋นป๋ายโด๊ดโหน้นแหล้ะ
ทำหวาด๋าวรุ๋ง
ทีหนี่ก๊อหล้อบมาถึ้ง
ปลุกผอถานหวา "ผอถัน ผอถัน
ด๋าวรุ๋งคึ้นแหล่วโด๊ะ
แหล้ต๊ะ เถี้ยมปล๋ายโด๊ดแหล่วนุ๊"
ผอถานก๊อต๋อกใจ๋เต๋อน
เง่ยแล่
เห้นด๋าวรุ๋งโหยบ๋นป๋ายโด๊ด
ก๊อหย็อกคึ้นหล็อกหลักๆ ไป๋หยืนบ๊าด
ผอถานเดิ๋นไป๋ๆหวา "อิ๊! ใสถีค่นหมั้นเหงี๋ยบจั๋ง
ไก๋ก๊อไม๊คั้น หมื๋ดก๊อหมื๋ด"
ผอถานเดิ๋น เดิ๋นไป๋หวา "อิ๊! หม้ายคนเก๊าะ
เห้นหวาหม้ายคน
ก๊อเฮยแลด๋าวรุ๋ง
หม้ายซะแหล่ว

นิทานเรื่องนี้นั้นน่ะนะ เรื่องศรีธนญชัยนั่นแหละ
อาศัยอยู่ที่วัดกับหลวงพ่อ
หลวงพ่อท่านสั่งไว้ว่า "ศรีธนญชัยเอ๊ย เดี๋ยวพอดาวประกายพฤกษ์ขึ้นสูงเทียมยอดไม้
มึงเรียกกูด้วยนะ กูจะไปบิณฑบาตร"
ศรีธนญชัยรับว่า "ฮึ ได้ หลวงพ่อนอนเถอะ"
พอหลวงพ่อเข้านอน ศรีธนญชัยก็ไปหาไต้มา
จุดไฟไปติดไว้ที่ยอดไม้
แสร้งทำเป็นว่าดาวประกายพฤกษ์
แล้วพอกลับมาถึง
ไปปลุกหลวงพ่อว่า "หลวงพ่อ หลวงพ่อ ดาวประกายพฤกษ์ขึ้นแล้วนะ
ดูสิ สูงเทียมปลายยอดไม้แล้วนะ"
หลวงพ่อก็ตกใจตื่น
เงยหน้าขึ้นดู
เห็นดาวประกายพฤกษ์อยู่ปลายยอดไม้
ก็รีบลุกขึ้นอย่างลุกลี้ลุกลน จะไปบิณฑบาตร
หลวงพ่อเดินไปๆ ว่า "อิ๊! ทำไมคนถึงเงียบจัง
ไก่ก็ไม่ขัน มืดก็มืด"
หลวงพ่อเดิน เดินไปวา "อิ๊! ไม่มีคนเลย"
เห็นว่าไม่มีคน
ก็เลยเงยหน้าขึ้นดูดาวประกายพฤกษ์
ไม่มีซะแล้ว

ผอถานหล้อบมาหวัด ม่าเถ่กุ๋ดแหล้ะห้า
มาถึ้งเยี๋ยกสี้ถะนนชัย
เอ๊าะ! ก๋อนถีแก๋ไป๋ แก๋สั้งไหว่แหล้ะหวา ใครมาเยี๋ยกหย้าให๊เปิ้ดตู๋
สี้ถนน มาถึ้งเยี๋ยก "สี้ถะนนชัย เปิ้ดตู๋ต่ะ"
สี้ถะนนชัย "ผอถานหม้ายฉ่ายห้ายเปิ้ด"
"สี้ถะนนชัยเปิ้ดตู๋ เปิดตู๋ที"
"อึ๊! ผอถานหวาหวา หย่าห้ายเปิ้ด"
(อุทาน)ผอถานแหล่ะ เปิ้ดต่ะ"
"ผอถานบ้อกแหล่วหวาหย่าห้ายเปิ้ด"
ผอถานเหรี๋ยกๆฮั้นแหล้ะ เก๊าะมั๊นไม๊เปิ้ด
ต๋อกล่ง ผอถานแหล็นไปน่อนค้างหวัด
ไป๋น่อนเถ่ก๋อหน่ามต๊าวเค้า

หลวงพ่อกลับมาที่วัด มาที่กุฏิน่ะแหละ
มาถึงก็เรียกศรีธนญชัย
เอ๊าะ! ก่อนที่แกจะไป แกได้สั่งไว้ว่า ใครมาเรียกก็ห้ามเปิดประตู
มาถึงก็เรียก "ศรีธนญชัย เปิดประตูหน่อยสิ"
ศรีธนญชัย "หลวงพ่อไม่ให้เปิด"
"ศรีธนญชัยเปิดประตู เปิดประตูหน่อย"
"อึ๊หลวงพ่อสั่งว่า ไม่ให้เปิด"
"นี่หลวงพ่อเอง เปิดเถอะ"
"หลวงพ่อสั่งไว้ว่าไม่ให้เปิด"
หลวงพ่อเรียก เรียก มันก็ไม่ยอมเปิด
ในที่สุดหลวงพ่อก็ต้องไปนอนข้างวัด
ไปนอนที่กอฟักทองของชาวบ้าน

พอแข่อี๊รุ๋ง คนหญิ๋งแหละ ม่าเก้บหน่ามต๊าวๆไป๋หนัด
ม่าถึ้ง ดี๊ดป๋อกแป๋กๆ ดี๊ดเอ่า (หัวเราะ) หน้วยนู้ แหล่วดี๊ดหนวยหนี้
มาดี๊ดเอาหั้วผอถาน
ผอถานต๋อกใจ๋เต๋อน
หย็อกคึ้น หล้บไปหวัด

พอใกล้รุ่ง ผู้หญิงคนหนึ่ง มาเก็บผลฟักทองไปตลาดนัด
มาถึง ก็ดีดป็อกแป็กๆ ดีดเอา (หัวเราะ) ผลโน้น แล้วก็ดีดผลนี้
จนดีดเอาหัวหลวงพ่อ
หลวงพ่อตกใจตื่น
ลุกขึ้น กลับไปวัด

ถี่หนี่พอหวั้นหนึ้งหลาว
ผอถานไป๋หลาว
ห้ายสี้ถะนนชัยเฝ๊าบ๊าน
สังหวา "หมึ้งขว้าวกุ๋ดใฮ้ดี๋น่า
ญาห้ายหม้ามาคี้
ท้าหมึ้งห้ายหม้ามาคี้ แหล่วกู๋ห้ายเก๋บกิ๋นและ (มีเสียงละหมาดแทรกเป็นระยะๆ)

คราวนี้ อยู่มาวันหนึ่ง
หลวงพ่อออกไปข้างนอกอีก
ให้ศรีธนญชัยเฝ้าบ้าน
ได้สั่งไว้ว่า "มึงเฝ้ากุฏิให้ดีนะ
อย่าให้หมาขึ้นมาขี้
ถ้ามึงให้หมาขึ้นมาขี้ แล้วกูจะให้มึงเก็บกินละ" (มีเสียงละหมาดแทรกเป็นระยะๆ)

พ่อผอถานไป๋หวะ สี้ถะนนชัยคั้วคงเค้าห้อม
แหล่วทิ้มซาวผร่าวกั้บหน่ามพึ้งซาย เกลื๋อ
แหล่วปั๊นตั๊งหว่ายตามผื่นและ
เหมื้อนกั้บคี้หม้าและ
ผอถานล็อบมาถึ้งเห้นหว่ะ "ฮา กู๊สังหมึ้งแหล่ว หวาหญ้าห้ายหม้ามาคี้
กิ๋นตะสี้ถะนนชัย"
สี้ถะนนชัยก๊อยิ๋บกิ๋น กิ๋น กิ๋น จ๋นอี๊เม็ดแหล่ว
ผอถานหวา "ไอ๊ไหร้ สี้ถะนนชัยนิ หมั้นกิ๋นคี้หม้าหร้อยเถียะ"
"อิ๊ ผอถานลองชิ่มแลตะ หร้อยและ"
ผอถานเอ๋าไปชิ่มแหละ เอ๋าไปชิ่มหว่ะ "เอ๊อ หร้อยจิ๋ง"
ยังหยูหี๊ดหนึ๋ง (หัวเราะ)
ผอถานหย๊ากเหล๋ย
"เอาะ ทีหนี่ หมึ้งยาหยิกมันหน้ะสีถะนนชัย
ห้ายหม้ามาค้ต้ะ"

พอหลวงพ่อออกไป ศรีธนญชัยก็คั่วข้าวโพดจนหอม
แล้วโขลกกับน้ำตาลทราย เกลือ
แล้วเอามาปั้น ตั้งไว้ตามพื้น
มองดูเหมือนขี้หมาเลยล่ะ
พอหลวงพ่อกลับมาถึง เห็นก็ว่า "ฮา กูสั่งมึงไว้แล้ว ว่าอย่าให้หมาขึ้นมาขี้
กินซะ ศรีธนญชัย"
ศรีธนญชัยก็หยิบกิน กิน กิน จนใกล้จะหมดแล้ว
หลวงพ่อก็ว่า "อะไรกัน ศรีธนญชัยนี่ มันกินขี้หมาท่าทางอร่อยเชียว"
"อิ๊หลวงพ่อชิมสิ อร่อยนะ"
หลวงพ่อก็เอามาชิม พอชิมก็ว่า "เอ๊อ อร่อยจริงด้วย"
แต่มันเหลืออยู่นิดเดียว (หัวเราะ)
หลวงพ่ออยากกินอีก
"เอาล่ะ ทีนี้ มึงอย่าไล่หมานะศรีธนญชัย
ให้หมามันขึ้นมาขี้เถอะ"

ผ่อวันหลั้งสี้ถะนนชัยไม๊หยิก หม้ามาคี้
ผอถานแลหวาหมิ้น กิ๋นไม๊ด๊าย
"เอ๊าะ แหล่วใสอ่ะ หมิ้นฮ่ะ หวาสี้ถะนนชัย"
"อึ๊ เปล๋าแหล่ คี้หม้าแดงอ่ะ ไม๊ฉ่ายคี้หม้าหมี้ทีอ่ะ
เค้ากิ๋นคี้หม้าหมี้นุแฮ่ะ"
ผอถานห้ายเด๋กไปหยิกเอาหม้าหมี้ ถีตั๋วดำ ด๋ำ ม่าห้าย
หมั้นคี้หว่ะ ไม๊คี้
ผอถานตี๋จ๋นคี้แต้ก เอ๋าม่ากิ๋นและ หวา "อึ๊ ใสถีหมั้นข้มฮ่ะนิ"
"อึ๊ ผอถานตี๋จ๋นคี้แต้กแหล่ะ" สี้ถะนนชัยหวา
จ๋บเทียมหนี้

พอวันต่อมา ศรีธนญชัยก็ไม่ไล่หมา ให้หมาขึ้นมาขี้
หลวงพ่อบอกว่าเหม็น กินไม่ได้
"เอ๊าะ แล้วทำไมเหม็นล่ะศรีธนญชัย"
"อึ๊ กินไม่ได้หรอก ขี้หมาแดงนี่นา ไม่ใช่ขี้หมาหมีสักหน่อย
เค้ากินขี้หมาหมีกันต่างหากล่ะ"
หลวงพ่อก็ให้เด็กไปไล่หมาหมีที่ตัวดำ ดำขึ้นมา
ให้มันขี้ มันก็ไม่ขี้
หลวงพ่อก็ตีจนขี้แตก แล้วเอามากิน ก็ว่า "อึ๊ ทำไมถึงขมล่ะ"
"อึ๊ หลวงพ่อตีจนขี้แตกน่ะสิ" ศรีธนญชัยว่า
ก็เป็นจบเพียงเท่านี้

go to top

 

 

 

 

นิทานเรื่อง "สามเกลอ"

  ฟังนิทานทั้งเรื่อง ความยาว 2 นาที 13 วินาที ด้วย RealMedia Format

คำถอดเทปเป็นภาษาใต้ คำแปลเป็นภาษากลาง


ยังคนโหยส้ามคน
คนหนึงฮันแค่งโด๊ะไปนิด
คนที่ส้องหั้วหล่ายแพ็กๆ
คนถี่ส้ามฮันเป็นก้าก คั่นถั่งตั๋วแหล้ะ
แหล่วส้ามคนหนี้หนัดกันไป๋หวิดปล๋าถี่หน้องโด๊ะ
หน้องฮั้นโหยกล๋างถ็องแฮะ
ห้าม้ายหล็อมซักหี้ดนึง
ก๋อนหวิดก๊อชันชีกันก๋อนกันหวา "อ่ะ! ท้าใครหยุ๋ดจะด๊ายหล็ดส้วนปั๋นตอเดี๋ยว
ไฮ้หวิดจนแฮ้งญาไฮ้หยุ๋ดนุแห้ะ


มีคนอยู่ 3 คน
คนหนึ่งนั้นหน้าแข้งเดาะไปนิด
คนที่สองหัวล้านโล่งโจ้ง
คนที่สามนั้นเป็นกลาก คันไปทั้งตัว
แล้วสามคนนี้นัดกันไปวิดปลาที่หนอง
หนองนั้นอยู่กลางทุ่งนั่นแหละยะ ไม่มีร่มไม้สักกนิดเดียว
ก่อนวิดปลาก็ตั้งกฎกันว่า
ถ้าใครหยุด ประเดี๋ยวจะถูกลดส่วนแบ่ง
ให้วิดจนแห้ง ห้ามหยุด"


ถี้หนี่กีอหวิดไป๋ หวิดไป๋ เก๊าะหร่อนจั๋งแหล่ะ
ไอ๊หั้วหล่านเก๊าะแส้บเบื๊องหั้ว
ไอ๊แค่งโด๊ะก๊อปิ๋งเก้าะกัด๋ดแขงถี่โดด๊ะฮันแหน่ะ ถั่งเจ๋บถั่งคัน
ไอ๊คี้กล้ากก๊อคันเม็ดแหล้ะตามตัว
ไม๊ถีทำผลือ หยุ๋ดไม๊ด๊าย
ไอ๊แค่งโด๊ะฮันหั้งดี๋หวาเผือนแหล้ะ
ผ่อหวิด หวิด เก๊าะทำหวาป๋าฉอนมาดุ๋นแขง วางโพงกะปล๋าฉอน
วางโพงกะถ๋ะปล๋าฉอนถีแขง
ผอ! ฉอนตั๋วใหญ้กิ๋นแค่งกู ฮึ! ไป๋เซียะแหล่วช๋าด
ถางแขงเด๊ะเดี๋ยว ถ้ะ ไม๊ถั้น"
เอ๋ามือปล๋ดปลิ๋งถีแขงฮั้นแหน่ะฮ้า
ห้ายเจ๋บ ห้ายคั่นไป๋แหน่ะห้ะ

ทีนี้ก็วิดไป วิดไป ก็ร้อนมากเลยล่ะ
ไอ้หัวล้านก็แสบหนังศรีษะ
ไอ้หน้าแข้งเดาะก็โดนปลิงกัดที่แข้งเดาะไปนั่นแหละ ทั้งเจ็บทั้งคัน
ไอ้ขี้กลากก็คันไปหมดทั้งตัว
ไม่รู้จะทำยังไง หยุดไม่ได้
ไอ้หน้าแข้งเดาะมีความคิดดีกว่าเพื่อน
พอวิด วิด ก็แกล้งทำเป็นว่า ปลาช่อนมาดุนแข้ง วางโพงที่ปลาช่อน
วางโพงกะจะจับปลาช่อนที่แข้ง
"แหม ปลาช่อนตัวใหญ่ กินแข้งกู ฮึ ไปซะแล้ว
ถากแข้งไปเนี่ย ตะกี๊ จับไม่ทัน"
เอามือปลดปลิงที่แข้ง
ก็หายเจ็บหายคันไป


ไอ๊หั้วหล่ายก๊อหวา "เดี๋ยวกู๋เห้นแหล่ว "
ก๊อด๋ำหน่ามไป ถั่มด๋ำโหยหน้านแหล้ะ
พุดคึ้นมา "ตั๋วใหญ้ช๋าด อึ๊! ไม๊ด๊าย"
ก๊อด๊ายดำหน่าม บ๋ายหั้วไป๋แหล่แหย้ะฮ้า (หัวเราะ)
ไอ๊คี้ก้าก เค้าคันจั๋งแหล่ว ก๊อหวิดหน่าม ทำเป๋นโมโห้
"กู๊หมั้นคัดใจ๋ คัดใจ๋ ไม๊เถท๊ำผลือ"
เอ๋าหมื้อไปเก๋าก้ากผักเดี๋ยว
ห้ายคันไปแหล่ะฮ้า
ก๊อต๋อกลงหวาถั่งส้ามคนก้ะ ก๊อหวิดกันต๋อไปจ๋นแฮ้ง
แหล่วก๊อจั๋บหล๋า
หม้ายใครโถ้กหลดส้วนแบ๋งทีฮ้า
ถุกคนด๊ายถาวๆกั๋นแหละฮ้า


ไอ้หัวล้านก็ว่า "ประเดี๋ยวสิ กุเห็นแล้ว"
ก็ดำน้ำไป แสร้งทำเป็นดำอยู่นาน
ผุดขึ้นมา "ตัวใหญ่มาก ฮึ จับไม่ได้"
ก็ได้ดำน้ำ สบายหัวไปน่ะแหละ (หัวเราะ)
ไอ้ขี้กลากเค้าคันมาก ก็วิดน้ำแสร้งทำเป็นโมโห
"กูขัดใจ ขัดใจ ไม่รู้จะทำยังไงดี"
เอามือไปเกาขี้กลากลูกเดียว
จนหายคันไปน่ะแหละ
ก็สรุปว่าทั้งสามคนก็วิดน้ำต่อไปจนแห้ง
แล้วก็จับปลา
ไม่มีใครถูกลดส่วนแบ่ง
ทุกคนได้เท่าๆกันน่ะแหละ

go to top

 

 

 

 

 

นิทานเรื่อง "สี่เกลอ" (1)

  ฟังนิทานทั้งเรื่อง ความยาว 4 นาที 19 วินาที ด้วย RealMedia Format

คำถอดเทปเป็นภาษาใต้ คำแปลเป็นภาษากลาง


เค้าเหรียกหนิทานเส้เกล๋อ
ซัดหน้ะ
ยัง เสื้อ ไก๋ จ๋ง หน็อกอินซี
โหยบ๊านเดี๋ยวกัน
ทึ๊งเซ้ดแหล่วทำฮานกัน ทึ้งไปโหย
พอไปทำฮานไปถั่งมดและ
ตั๊งเวรหู้งค้าวกัน
ถึ้งวันนั้น วันแหรกๆฮัน
เสื้อหู้ง เสื้อเป็นคนหู้งค้าว
ทึ้งถั่งมดไปทำฮานกั๋น
พอน้าเถียง จ๋งหมั้นโหยไม๊ด้ายและ
จ๋งหวาหมันเจ็บพุงคี้ ไปคี้เดี๋ยวกอน
หวันเถียงแหล่ว ถึ้งหลักไปด๋อม ไปแลเสื้อหู้งค้าว
ไปแล่ ถึ้งเสื้อแกงงัว
ล็อบมา
พอถึ้งถ่าเผือนหวา "หวันหนี่ แงไหร้เกล๋อ"
"หมึ้งโร้เฮอะ" ใครถ่ายโถ้กด๊ายส้องท้วย"
หมั้นถ่าย ถึ้งถ่ายไม๊โถ๊กเลย
ถึ้งหมั้นถ่ายโถ้ก
หมั้นถ่ายหวาแกงงัว
พอไปถึ้งกิ๋นหมั้นได๊ส้องท้วย


เค้าเรียกนิทานสี่เกลอ
เป็นสัตว์นะ
มีเสือ ไก่ กระจง นกอินทรี
อาศัยอยู่บ้านเดียวกัน
ทำงานกัน อยู่ๆไป
เมื่อถึงเวลาทำงานก็ไปทำกันทั้งหมด
จึงมีการตั้งเวรหุงข้าวกัน
โดยวันนั้น วันแรกๆ
เสือเป็นคนหุงข้าว
ส่วนทั้งหมดที่เหลือก็ไปทำงาน
พอถึงตอนเที่ยงกระจงรู้สึกทนทำต่อไปไม่ไหว
จึงบอกว่าปวดอุจจาระ ขอไปทำธุระสักประเดี๋ยว
ซึ่งตอนนั้นเป็นเวลาเที่ยง พอไปถึงก็ไปแอบดูเสือหุงข้าว
เห็นเสือกำลังแกงเนื้อวัว
ครั้นถึงเวลากลับบ้าน
กระจงก็ถามเพื่อนว่า "วันนี้แกงอะไรหรือเกลอ"
"มึงรู้รึ" เสือถาม "ใครทายถูกจะได้แกง 2 ถ้วย"
เพื่อนๆทายกัน ก็ทายไม่ถูกันเลย
แต่กระจงทายถูก
กระจงทายว่า "แกงเนื้อวัว"
พอถึงเวลากิน มันจึงได้แกงสองถ้วย


ถึ้งก๊อฉ่าวกะ พอหรุงฉ่าวคึ้นหลาว
หน็อกอินซีโหยหู้งค้าวหลาว
ถึ้งก๊อจ๋งทำพั้นหนั่นแหน้ะ ถุกทีฮันแหน้ะ ถุกวันฮันแหน้ะ
พอหวันป่าฮั้น
ก๊อหลักไปด๋อมหลาว
ถึ้งหล้อบมาถ่ายเผือนหลาว
ถึ้งใครถ่ายไม๊โถ้ก
หน็อกอินซีได๊ป๋า เอ๊ะ! หน็อกได๊ป๋ามา
ได๊ป๋ามาตั๋วใหญ้แหล้ะ
เอ๋ามาแก๋ง
ปาพงแลฮ้า
ถึ้งข่ะหนี่กีอเค้าหวาท้าใครถ่ายโถ้กก๊อได๊ส้องท้วยหลาวแหล๊ะ จ๋งหวา
ก๊อถึ้งจ๋งถ่ายโถ้กหลาวฮ้า
ได๊ส้องท้วย

เช้าวันต่อมา
นกอินทรีเป็นผู้หุงข้าว
กระจงก็ทำเช่นเดิม เหมือนทุกที ทุกวันนั่นแหละ
พอถึงช่วงเวลานั้น
ก็แอบไปดูอีก
พอกลับมาก็มาทายเพื่อน
แล้วไม่มีใครทายถูก
นกอินทรีได้ปลา เอ๊ะ! นกได้ปลามา
ได้ปลามาตัวใหญ่
เอามาแกง
เป็นปลากระพง
แล้วทีนี้กระจงบอกว่า ถ้าใครทายถูกได้ 2 ถ้วยอีก
แล้วกระจงก็ทายถูก
จึงได้แกงมาสองถ้วย

ถึ้งพอหวั่นนั้น ไก๋โหย
พอไก๋โหยก๊อจ๋งก๊อหล้อบมาหลาว
ทำเหมื้อนเดิมฮั้นแหล้ะหน่ะ
ก๊อจ๋งก๊อหล้อบบ๊านหลาว
มาถึ้งแหล่ ไปแลไก๋แก๋งโหย้ะ
กะต๊าก กะต๊าก โขร่ม! กะต๊าก กะต๊าก โขร่ม!
จ๋งหมั้นด๋อมเห้น
พอหนั้นจ๋งหล้บหม้า
มาถึ้งถ่ายเผือนหลาว
เผืนหมั้นถ่ายไม๊โถ้ก
หมั้นถ่ายโถ้กหลาว
หมั้นได๊ส้องท้วยแหล้ะหลาว
ต็อกล่งหมั้นได๊ส้องหน้วย
ไข้ไก๋หมั้นได๊ส้องหน้วย


แล้วพอวันนั้น ไก่อยู่
พอไก่อยู่ กระจงก็กลับมาอีก
ทำเหมือนเดิมนั่นแหละ
กระจงก็กลับบ้านอีก
พอมาถึง เห็นไก่กำลังแกงอยู่
"กะต๊ากๆ โครม กะต๊ากๆ โครม"
กระจงแอบมองเห็น
พอกระจงกลับมา
ก็ทายเพื่อนอีกเหมือนเดิม
เพื่อนๆก็ทายไม่ถูก
กระจงทายถูกอีก
จึงได้แกง 2 ถ้วย
สรุปคือ ได้ไข่ 2 ใบ
มันได้ไข่ไก่ 2 ใบ


ถึ้งพอวันหนั้นหมั้นโหย พอวันหมั้นโหยถึ้ง
เผือนเค้าไป๋ทำฮานกัน
ก๊อไม๊ใครมาแหละฮะ
ก๊อไม๊ใครโหร่เหรืองเหมื้อนกับหมั้น
หมั้นถ่ำเขรืองแก๋ง
ใส้เขืองไหว่ไหร้เซ็ด
ถึ้งหมั้นถ่ำ ส้ากลั่วเผือนอี๊มาด๋อมเหมื้อนกันแหล้ะ
"กะต๊าก กะต๊าก โขร่ม! กะต๊าก กะต๊าก โขร่ม!"
จ๋งคี้ใส้ม้อเต๋ม ถึ้งคี้ใส้ม้อไหว่เม็ด
ทำหวาเป็นหน่ามแก๋ง


แล้วพอวันนั้น ถึงเวรกระจง กระจงอยู่
เพื่อนเค้าไปทำงานกัน
ก็เลยไม่มีใครดู
จึงไม่มีใครรู้เรื่องอย่างมัน
กระจงทำเครื่องแกง
ใส่เครื่องแกงอะไรๆ ไว้เสร็จ
เมื่อถึงเวรมัน มันก็รู้สึกกลัวว่าเพื่อนจะมาแอบดูเหมือนกัน
"กะต๊ากๆ โครม กะต๊ากๆ โครม"
กระจงขี้ใส่หม้อเต็มไปหมด ขี้ใส่หม้อไว้ทั้งหมด
แสร้งว่าเป็นน้ำแกง


ถึ้งผ่อหวาเผือนหล้อบมาถึ้งก๊ออี๊กิ๋นค้าวกัน
มาถึ้งหมั้นหน่อนค้าย ถ่านยิกๆๆๆ
"ฮือ! ค้าย"
พอหวาเสื้อมากินกั๋นถึ้ง เสื้อสดหน่ามแกงวู๋ด!
"เกล๋อกิ๋นคี้กู๋"
ถึ้งเสื้อหวาไอ๊ไหร้วะ
"ม้ายกู๋เด้ะ ค้ายเกล่อเฮ้อหวั้นหนี่
ถั่งวันไม๊ได๊ทำไหร้เลย
ไม๊ได๊ห้าไหร้แก๋ง
ทำหน่ามแก๋งปล๋าวใฮ้กิ๋นแหล้ะเกล๋อเห้อ"
ถึ้งเสื้อสดหลาวแหล้ะ วู่ดหลาว
"เกล๋อกิ๋นคี้กู๋" "ม้ายกู๋เด้ ค้ายหวา ม้ายห้าไหร้แก๋ง"
เสื้อสดดังวู๋ดหลาวแหล่วหมั้นดังแล้ะ
พอเสื้อสดวู้ด แหล่วหมั้นก๊อ "ฮึ! เกล๋อกินคี้กู๋หวา"
"ไอ๊ไหร้หวา!"
โด หยกคึ้นถั่งค้ายนั้นแล้ะ
เสื้อก๊อหยิกไป


ครั้นเมื่อเพื่อนกลับมา ก็จะกินข้าวกัน
มันนอนเป็นไข้ ตัวสั่นสะท้านยิกๆๆๆ
"ฮือ! ไข้"
พอเสือมากินเสือซดน้ำแกง วู้ด!
"เกลอกินขี้กู"
เสือถามว่า "อะไรวะ"
"ไม่มีอะไร วันนี้ กูนี่เป็นไข้นะเกลอ
ทั้งวันไม่ได้ทำอะไรเลย
ไม่ได้หาอะไรมาแกง
ทำน้ำแกงเปล่าให้กินนะแหละเกลอ"
แล้วเสือก็ซดอีกดัง วู้ด! อีก
"เกลอกินขี้กู" "ไม่มีอะไรกูนี่เป็นไข้ ไม่ได้หาอะไรแกง"
เสือซดดัง วู้ด! อีก และมันก็พูดดังขึ้นมา
พอเสือซดดังวู้ด มันก็พูด "ฮึ! เกลอกินขี้กู"
"ว่าอะไรนะ"
กระจงกระโดด ลุกขึ้นทั้งที่เป็นไข้นั่นแหละ
เสือก็ไล่ก็ไป

พอไปถึ้งผบรังต๊อ
"มาเด้ะ เกลอๆ เด้ะ เด้ะ โหม้ผระอิ๋น
เท้าใครไม๊ตี๋ผระอินแฉงหวา"
เสื้อก๊อผ้างค้าว ผางค้าวตี๋
แหล่วหนั้นๆ ต๊อไฉ่น้าเสื้อบ่ะหุ้ม
น้าบ่ะหุ้มเม็ดฮัน
เมื้อนกั้บถีเค้าได๊เหรี้ยก
แฮะ ถีเค้าได๊เหรี้ยกเสื้อน้าบะหุ้มฮัน
เดิมมาตั๊งแหลกนู้นพันหนั่นและฮ้า

พอไปถึงพบรังต่อ
"มาสิเกลอ มาสิ มาสิ หมู่พระอินทร์
ถ้าใครไม่ตี พระอินทร์จะแช่ง"
เสือก็ลุยเข้าไป ลุยเข้าไปตี
แล้วนั้นแหละ ต่อต่อยหน้าเสือ จนบวมบะหุม
เสือหน้าบวมบะหุมหมด
เหมือนกับที่เค้าเรียกนั่นแหละ
เค้าเรียกเสือกันว่า "เสือหน้าบะหุม
เป็นมาแต่ครั้งกระโน้นแหละ

ทีหนี่ก๊อหมั้นไป๋ พอแหลนหลาว
แหลนหลาวไปถึ้งบ๋อ
จ๋ง (เสียงไก่ขัน)ในบ๋อ
หมั้นหวา หมั้นไม๊จ๋ม
ถึ้งฉ่าย ห้ายเสื้อลงไป
เสื้อหมั้นตาบ้อดแหล้ะเสื้อ
หวา "หวามาต๊ะเกล๋อๆ"
เสื้อหมั้นแลไม๊เห้นแหล้ะ
แหม่ดแหม้ดแล้ะต๊อไฉ่
โด๊ะ เสื้อก๊อไป
หมั้นหวิงคึ้นหลั้ง บนข่อเสื้อ ผ่อน

ทีนี้มันก็ไป พอวิ่งอีก
วิ่งไปถึงบ่อ
กระจง (เสียงไก่ขัน) ในบ่อ
มันบอกว่า มันไม่จม
แล้วบอกให้เสือลงไปในบ่อ
เสือตาบอด
กระจงว่า "มาสิเกลอ มาสิเกลอ"
เสือมองไม่เห็น
ตาบอดสนิทเพราะโดนต่อต่อย
"โด๊ะ!" (คำอุทาน) เสือก็เข้าไป
กระจงวิ่งขึ้นคอเสือ ขึ้นหลังหนีไปจนพ้น

go to top

 

 

 

 

 

นิทานเรื่อง "สี่เกลอ" (2)

  ฟังนิทานทั้งเรื่อง ความยาว 1 นาที 30 วินาที ด้วย หรือ หรือ

คำถอดเทปเป็นภาษาใต้ คำแปลเป็นภาษากลาง


หนิทานเหรืองหนี้เฉ่อเส้เกล๋อ แตหวาค่นหมั้นไม๊เหมื้อนกั้บเหลื่องนุแหล้ะฮ้า
ยังไอ๊กอบใหญ้ ไอ๊ใบหู้ใหญ้ ไอ๊วานเหลี๊ยม ไอ๊หมู้กใหญ้
ก๊ะไปห้ากุ๊งกันเถในเหล้นุแฮะ
ผ้ายเรื่อกันถ๋อดแห้ ผ้ายเรื่อกันไป๋
กะด๊ายกุ๊งมาเหมื้อนอี๊เต๋มลำเรื่อเหละห้า
ด๊ายผะลุ่ยแล
กะพ่ายเรื่อล็อบบ๊าน
พ่อมาถึ้งถา หวา ถาเรือ
ก๊อยังค่นมาค้อกุ๊งหวา ค่นแก๋
กะถั่งส้ามคนเห้นหวาน้าเห้นดู๋อะ ห้ายกุ๊งกันหวา
อ๊ายกอบใหญ้เค้าหนังแขก๋องกุ๊งแหะ
เผือนเค้าหวาห้าเอ๋าห้ายป๊าแก้หี้ดถิ
ไอ๊กอบใหญ้เค้าก้อบห้ายไป๋กอบหนึ้งหวา แม็ดไป๋ขรึงล่ำเรือ (หัวเราะ)
เผราะหวาก้อบหมั้นใหญ้
ไอ๊ถ่ายเหลี้ยมเค้าโมโห้
เค้าหย็อกคึ้นแถ้ะคี้หนัง บึงลง
ถ่ายเหลี้ยมหมั้นถิ้มเอาเรือหรัว หน่าวค้าวในเรื่อ
ไอ๊กอบใหญ้เค้ากอบหน่ามอ้อก
ทีหนี่ไอ๊หมู้กใหญ้เค้าคี้หมู้กหม๋ากแหละ
เก๊าะ เอ๋าอ้อกมาอุ๋ดรูหรัว อุ๋ด อุ๋ดผักเดี๋ยว
จนหยาเรือหรัวด๊ายแหล่ว
ไอ๊ใบหู้ใหญ้เค้าดึ๋งใบ๋หู้แท่นใบเรื่อ
พาเรื่ออ๊อกไป๋ห้าเอ๋อน
ไม๊หรุด๊ายมาหลาวม้ายทีหนี่
ฮึ จ๋บแขหนี้ฮ่ะ


นิทานเรื่องนี้นะ ชื่อสี่เกลอ แต่ว่าตัวละครมันไม่เหมือนกับเรื่องโน้นแหละนะ
มีไอ้กอบใหญ่ ไอ้ใบหูใหญ่ ไอ้ก้นแหลม ไอ้จมูกโต
ก็ไปหากุ้งกันในทะเลกันน่ะนะ
พายเรือกันไปทอดแห พายเรือกันไป
ก็ได้กุ้งมา เหมือนจะเต็มลำเรือแหละ
ได้มาเยอะแยะ
ก็พายเรือกลับบ้าน
พอมาถึงท่า ท่าเรือ
ก็มีคนมาขอกุ้ง คนแก่
ก็ทั้งสามคนเห็นว่าน่าสงสาร ให้กุ้งไปดีกว่า
ไอ้กอบใหญ่เค้าในนั่งใกล้กองกุ้ง
เพื่อนๆบอกว่า เอาให้ป้าแกไปสักหน่อยเถอะ
ไอ้กอบใหญ่เค้าก็กอบให้ไปหนึ่งกอบ หมดไปครึ่งลำเรือ (หัวเราะ)
เพราะว่ากอบมันโต
ไอ้ก้นแหลมเค้าโมโห
เค้าลุกขึ้น นั่งกระแทกลง บึงลง (คาดว่าเป็นคำเลียนเสียงธรรมชาติ บอกอาการกระแทกลงนั่ง)
ก้นแหลมเค้าทิ่มจนเรือรั่ว น้ำเข้าในเรือ
ไอ้กอบใหญ่เค้ากอบน้ำออก
ทีนี้ไอ้จมูกใหญ่เค้ามีขี้มูกเยอะ
ก็เอาออกมาอุดรูรั่ว อุด อุด ลูกเดียว
จนอุดรูรั่วได้แล้ว
ไอ้ใบหูใหญ่ เค้าดึงใบหูแทนใบเรือ
พาเรือออกไปหาเพิ่ม
ไม่รู้ได้มาอีกรึเปล่าคราวนี้
ฮึ จบแค่นี้แหละ

go to top

| Return to Thai Regional Folktales Page |


Revised: 31-Jan-2001